อาจจะฟังดูย้อนแย้งนิดหน่อย เพราะคาสิโนไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน พูดง่ายๆ มันก็คือการเดิมพันหรืการพนันดีๆ นี่เอง แต่ถ้าเราลงสนามด้วยหัวใจของนักพนันเต็มตัว เราจะได้ลุ้นเต็มที่แต่อาจจะกอบโกยเงินรางวัลได้ไม่เท่าไร ผิดกับการลงสนามคาสิโนด้วยแนวคิดแบบนักลงทุน นี่สิถึงจะสร้างความรวยจากคาสิโนได้จริงๆ มาถึงตรงนี้ถ้ายังไม่ค่อยเข้าใจว่ามันเป็นยังไง ก็ลองมาดูความแตกต่างของนักพนันและนักลงทุนกันก่อน
นักพนัน : เป็นกลุ่มคนที่ทำกิจกรรมบางอย่างเพื่อเสี่ยงโชค ใช้ดวงนำทางล้วนๆ ตัดสินใจแบบเดาสุ่มเสมอ แม้ว่าเขาจะคิดว่ากำลังใช้สัญชาตญาณหรือลางสังหรณ์ก็ตามที ไม่ว่าจะเป็นนักพนันสายไหน ก็จะมีสไตล์การเล่นที่รวดเร็ว กล้าได้กล้าเสีย และมักมีคติประจำใจตอนจะลงเงินก้อนใหญ่ว่า วัดดวงไปเลย หากได้ก็จะได้มากชนิดที่ตั้งตัวได้ แต่ถ้าเสียก็ไม่เป็นไรถือว่าฟาดเคราะห์ ไม่ต้องรอดูปลายทางก็ทำนายได้เลย ว่าคนกลุ่มนี้จะไปจนที่ขาดทุนเสมอ ระหว่างทางอาจจะดูเหมือนมือขึ้น แต่ตอนจบกลับต้องยื้อจนหืดขึ้นคอเพื่อไม่ให้เสียไปมากกว่าเดิม
นักลงทุน : เป็นกลุ่มคนที่ทำกิจกรรมบางอย่างแบบหวังผลกำไร ใช้ข้อมูลรอบด้านในการนำทาง เขาจะถนัดเรื่องการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และเก่งในการเอาข้อมูลเหล่านั้นมาปรับใช้ จังหวะการเล่นก็จะต่างจากนักพนันอย่างสิ้นเชิง ไม่ตัดสินใจเร็วเกินไป หากจวนเวลาแต่ยังไม่มั่นใจก็เลือกที่จะไม่เดิมพันแทน ดังนั้นในแต่ละรอบของการเล่นเกมส์คาสิโน มันจะมีเปอร์เซ็นต์ความมั่นใจว่าจะได้รางวัลอยู่ในนั้นค่อนข้างสูง แน่นอนว่าความผิดพลาดก็มีเหมือนกัน แต่จะน้อยกว่านักพนันค่อนข้างมากทีเดียว เพียงเท่านี้ก็คงพอจะเห็นแล้วว่า หากคิดจะเล่นคาสิโนแบบนักพนัน แล้วคิดว่าจะโกยเงินมหาศาลออกไปได้เหมือนในหนังที่เคยดู เชื่อเถอะว่ามันเป็นการคิดที่ผิดมหันต์ ถ้าคิดว่าดวงสำคัญกว่าข้อมูล แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าดวงคนอื่นไม่ได้ดีไปกว่าเราในวันนั้น แต่ถ้าวัดกันด้วยข้อมูล ยังไงก็ตัดสินผลแพ้ชนะได้ ใครมีข้อมูลชัดกว่า ลึกกว่า คมกว่า คนนั้นได้เปรียบ และถ้าเขาฝึกกระบวนการคิดและตัดสินใจมาดีพอ